FirstCare Club

ขอขอบคุณคนไข้ของทางคลินิกอีกท่านนึงนะคะ ที่กรุณาส่งรูปภาพมาช่วยรีวิวค่ะ ภาพนี้คนไข้มีปัญหาอยู่ที่แผลคีลอยด์บริเวณเหนือริมฝีปากนะคะ อ้างอิงจาก http://www.dungdong.com/forum.php?mod=v ... &tid=49472

วันที่ 6 ตุลาคม 2555
ดิฉัน ได้เข้ารับการรักษา "ศัลยกรรมตกแต่งแผลเป็นคีลอยท์" ที่เฟิร์สแคร์คลินิค กับ คุณหมอ อภิชาญ พงศ์พัฒนานุรักษ์
ซึ่งส่วนตัวดิชั้น ได้หาหมอ หลายท่านมาก และคุณหมอ ทุกท่านก็บอกว่า แผลที่ดิชั้นเป็นนั้น มันรักษาได้ยากมากๆเลย และถ้ารักษาได้ จะมีราคาที่สูง แบบสุดๆเลย ตอนแรกดิชั้น ก็ท้อใจอยู่เหมือนกัน ว่าต้องยอมรับความจริง และอยู่กับแผลเป็นคีลอยท์ขนาดใหญ่บนใบหน้าให้ได้ แต่พอมา วันนึง ด้วยแรงกดดัน ที่โนเพื่อนล้อ และหน้าที่การงานที่เป็นอยู่ ช่วยให้เราต้องตัดสินใจ ทำศัลยกรรมตกแต่งแผลเป็นคีลอยท์ ไปหาหมอ หลายที่มาก เขาก็ไม่รับทำเลย จนสุดท้าย ก็ได้ลองคุยกับ คุณหมอ อภิชาญ พงศ์พัฒนานุรักษ์(เฟิร์สแคร์คลินิค) ว่า รักษาได้ ดิชั้นดีใจมากๆเลย ^^" แล้วดิชั้นก็ได้ นัดคิว กับคุณหมอ ในวันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม 2555 ในเวลา 14.00 น. คุณหมอ และ พยาบาล ที่นี้ ดูแลดีมากๆเลย ดูแลเหมือนคนในครอบครัว และก็มีความตรงไปตรงมา และเข้าใจ ผู้ป่วยเสมอ

ในการรักษาของดิชั้น ใช้่เวลา ในการรักษาแค่ ไม่ถึง 2 ชั่วโมง และขั้นตอนในการทำ อยากบอก ว่า ระเอียด ทุกขั้นตอน น้องนัท เลยมั้นใจว่า ยังไง คีลอยท์ ก็ไม่กลับมา 100%

ปัจจุบันเป็นยังไงแล้วคะ ยังมีรอยแผลอยู่รึป่าว

เยี่ยมเลยครับ เอามาให้ดูบ่อยๆ นะ

ผ่าตัดคีลอยด์ หมออภิชาญ
cr. naatadee.com

สวัสดีค่ะ คือเราเป็นคีลอยด์ที่หู ซึ่งเกิดมาจากการที่เราเจาะหู ประมานป.6 ตอนแรกๆก็ไม่ได้ก้อนหรือเนื้ออะไรนูนขึ้นมาเราก็ใช้ชิวิตปกติ จนประมานม.6 เราได้ไปลงเรียนซัมเมอร์ที่ต่างจังหวัด และได้ทำการเจาะเพิ่ม เป็นข้างละ 2 รู ผ่านมาไม่นานก็รู้สึกคันๆ และเหมือนจะอักเสบ เราก็นึกว่าแพ้ต่างหูรึป่าว แต่ไม่ใช่น่ะสิ เหมือนจะเป็นเนื้อนูนๆขึ้น เราก็เลยเลิกใส่ต่างหูไป และมันก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่รู้มันคืออะไร พอมันใหญ่เราก็เลยรู้สึกไม่โอเคกลัวว่าจะเป็นโรคอะไร เลยได้ไปหาหมอที่ร.พ. รัฐบาลแห่งนึงที่ต่างจังหวัดที่ใกล้มหาลัย และหมอได้บอกว่าเป็นคีลอยด์และขึ้นแรกให้ฉีดใหม่มันนิ่มก่อนถึงจะค่อยสามารถผ่าตัดได้ แล้วเราก็ทำตามขั้นตอน จนผ่านตัดเสร็จ

แต่พอผ่าเสร็จหมอให้มาทำการฉีดต่อแต่ช่วงนั้นเข้ามหาลัยใหม่ๆ งานก็เยอะกิจกรรมก็เยอะเราจึงไม่ได้ไปฉีดต่อ เพราะเวลาไปรพ.รัฐ เราต้องใช้เวลาทั้งวันในการรอตรวจและฉีดต่อ จึงปล่อยมาเรื่อยๆแล้วมันก็โตขึ้นทีละเล็กละน้อย จนใหญ่ขึ้นอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งโตขึ้นทั้ง 2 รู เราจึงตัดสินใจไปหาหมอคลินิกที่บ้านตามที่เพื่อนแนะนำมา และได้ทำฉีดประมาน 4-5เข็มแล้วผ่าตัดอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เราคิดว่าถ้าใกล้บ้านเราจะได้รักษาต่อเนื่อง เพราะมันเป็นโรคที่ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง แต่ที่ไหนได้ พอผ่าเสร็จ เราฉีดต่อได้ ครั้งหมอกลับย้ายไปที่อื่นจึงไม่ได้รักษาต่ออีกเลย

จนมาปีนี้มันก็ใหญ่ขึ้นอีกและเป็นแผลใหญ่กว่าเดิมมากเพราะเกิดจากการผ่าตัดครั้งที่แล้วด้วย และเราเรียนจบแล้วก็ได้มาทำงานที่กทม. เมื่อเดือนที่แล้วเราเลยไปอ่านริวิวคนไข้ของหมออภิชาญ และเห็นรูปรีวิวคนอื่นๆแล้วแผลสวย เลยโทรไปสอบถามดู แล้ววันต่อมาเราก็ได้ไปพบหมอ หมอบอกว่าของเรามันใกล้กระดูอ่อนที่หู และคีลอย์ได้กินฐานหูไปเยอะมากแล้ว ซึ่งหากผ่าอาจจะทำให้หูเสียรูปได้

แต่หมอบอกว่าจะพยายามทำเหมือนเดิมที่สุด เราไม่อยากให้มันใหญ่ไปกว่านี้เพราะแค่นี้ก็ทำให้เราไม่กล้าเปิดหูรวบผมขึ้นเลย เราจึงตัดสินใจผ่าในอาทิตย์ต่อมา เคสเราใช้เวลา 2 ชม. ในการผ่าซึ่งต้องเปิดแผลแล้วเย็บปิดใหม่ ซึ่งพอหลังจากผ่าตัด หมอดูแลอย่างดีมากคอยโทรมาถามอาการและให้ถ่ายรูปให้ดูตลอดและกดเลือดเพราะกลัวเลือดคลั่งในแผลแล้วทำให้เนื้อตายได้ คือหมอบริการและให้คำปรึกษาดีมาก มีแต่คนชมว่าแผลสวยมากและใกล้เคียงกับรูปหูเดิมมากเพราะแผลของเรามันค่อยกว้างและใหญ่ และตอนนี้เราก็รักษาต่อและฉีดไปเรื่อยๆ คุณหมอก็ดูแลอย่างดี เพื่อนคนไหนสนใจสามารถปรึกษาได้ที่ เฟิร์สแคร์ คลินิกเวชกรรมเฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่ง คุณหมออภิชาญ ได้ที่
Tel.086-3509030./02-7263640./081-6451098 หรือ facebook https://www.facebook.com/firstcare.surgery.clinic **รูปนี้ได้ผ่านการขออนุญาติ..ขอเอารูปเผยแพร่(จากทางเฟริสแคร์คลินิก)เรียบร้อย